Pinhathai ปิ่นหทัย คลิปสาวสวยหุ่นแซ่บ ดีกรีนักมวยหญิง

ในวงการมวยไทยบ้านเรา บางคนอาจคิดว่าการก้าวออกจากสังเวียนคือจุดจบของเส้นทางนักสู้ แต่สำหรับ หมอปิ่น หรือ ปิ่นหทัย Pinhathai เส้นทางของเธอเพิ่งเริ่มต้นใหม่ต่างหาก นอกจากบทบาทแพทย์สนามแล้วเธอยังผันตัวมาเป็นครีเอเตอร์สายสปอร์ตบนโซเชียลมีเดีย ไปทำคอนเทนต์เกี่ยวกับมวย ร่างกาย การออกกำลังกาย ไลฟ์สไตล์ และการดูแลสุขภาพ ซึ่งดึงดูดแฟน ๆ ได้เป็นจำนวนมาก โดยบนแพลตฟอร์ม TikTok เธอใช้ชื่อว่า “pintokub” และมีผู้ติดตามหลายแสนถึงล้านคน — ทำให้เธอกลายเป็น “หมอปิ่น” ที่หลายคนรู้จักในวันนี้

ประวัติ หมอปิ่น หทัยรัตน์ นักมวยสาวสาวคนดัง

“หมอปิ่น” มีชื่อจริงว่า หทัยรัตน์ ณ เชียงใหม่ เติบโตมาท่ามกลางบรรยากาศของค่ายมวย เพราะคุณพ่อของเธอเปิดค่ายมวยควบคู่กับร้านตัดผมชื่อ “เอกบาร์เบอร์” จึงไม่แปลกที่เธอจะซึมซับ “สายเลือดนักมวย” ตั้งแต่เด็ก — เธอเริ่มซ้อมมวยตอนระดับ ม.1 แต่ยังไม่จริงจังนัก จนกระทั่งเมื่อเห็นพ่อพานักมวยขึ้นชก เธอเริ่มอยากลองบ้าง และได้ขึ้นชกครั้งแรกในงานวัด (เก็บค่าตัวเพียง 300–400 บาท) แม้จะแพ้ แต่ประสบการณ์ครั้งนั้นเป็นแรงผลักดันให้เธอเดินหน้าในวงการมวยอย่างจริงจัง

เมื่อก้าวเข้าสู่วงการอย่างจริงจัง “หมอปิ่น” ใช้ชื่อในวงการว่า “ปิ่นหทัย เอกบาร์เบอร์” และบางครั้งที่ได้รับการจับตาเป็นพิเศษก็ใช้ฉายา “ดอกไม้งาม บุญลานนามวยไทย” ที่สะท้อนถึงความอ่อนหวานแต่แฝงด้วยความแกร่งในสังเวียน มีรายงานว่าเธอขึ้นชกมวยอาชีพหลายสิบไฟต์ และเคยเดินทางไปชกในรายการระดับนานาชาติ — รวมถึงรายการ K‑1 ที่ประเทศจีนอีกด้วย แต่แล้ว เมื่อถึงช่วงหนึ่งของชีวิต เธอตัดสินใจที่จะ “ถอดนวม” เพื่อมุ่งหน้าสู่เส้นทางใหม่

หลังจากพกพาประสบการณ์ในสังเวียนอย่างโชกโชน “หมอปิ่น” หันไปให้ความสำคัญกับการเรียน โดยเข้าเรียนในสาขาแพทย์แผนไทยประยุกต์ ที่ มหาวิทยาลัยนเรศวร และสำเร็จการศึกษา จากนั้นเธอเริ่มทำงานในฐานะแพทย์ โดยมีบทบาทเป็น “แพทย์ประจำโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลสบแปะ อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่” พร้อมกับรับงาน “แพทย์สนามมวย” สำหรับการแข่งขันมวยไทยในหลายเวที โปรโมเตอร์มวยเห็นว่าเธอมีเบื้องหลังเป็นนักมวยเดิม และเข้าใจสภาพร่างกายและจิตใจของนักมวย จึงชักชวนให้เธอมาดูแลนักมวยในบทบาทแพทย์ — เป็นการผสมผสานสองบทบาทที่ไม่ธรรมดา
เดลินิวส์

เส้นทางของ “หมอปิ่น” สะท้อนให้เห็นว่า แม้จะเคยอยู่ในวงการที่โหดอย่างมวยไทย แต่เธอไม่หยุดพัฒนา ไม่ยึดติดกับอดีต และพร้อมเริ่มต้นใหม่ในบทบาทที่ต่างออกไป — ทั้งในฐานะแพทย์ และในฐานะครีเอเตอร์สายสุขภาพ/สปอร์ต ด้วยพื้นฐานจากสังเวียนมวย ทำให้เธอเข้าใจ “ร่างกาย” “จิตใจ” และ “การดูแลนักกีฬา” เป็นอย่างดี — และเมื่อมาผนวกกับความรู้ด้านแพทย์ เธอกลายเป็นทรัพยากรที่มีคุณค่าสำหรับวงการมวย และยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับหลายคนที่อาจคิดว่าถ้าลาออกจากอะไรสักอย่างแล้วชีวิตต้องหยุด